เห็นตรงกันมั้ยคะว่า พวกเราที่เกิดมาแล้ว พากันเรียกตัวเองว่า “คน” ล้วนแต่มี “ทุกข์” เป็นเจ้าของเรือนด้วยกันทั้งนั้นไม่ว่าจะ “หล่อ รวย สวย กรอบ” ก็ “ทุกข์” จะ “ขาว ดำ ต่ำ สูง” ก็ “ทุกข์” หนีทุกข์กันไปไม่พ้นดังที่มีคนกล่าวเอาไว้ประโยคหนึ่งว่า “มนุษย์ทุกคน ล้วนมีความเศร้าชนิดหนึ่งกัดกินชีวิตเราอยู่..” และฉันคงจะไม่ห่วงถ้าคุณอยู่ในภาวะ “เริงสราญ บานใจ” เพราะนั่นหมายถึงอาการของ “คนสุข” ที่ยังไงๆก็คงไม่มีอันตรายถึงชีวิต (ตราบใดที่ไม่ได้ไปเสพสิ่งชั่วร้าย อบายมุข)
แต่หากเมื่อใดที่คุณอยู่ในภาวะ “โศก เศร้า เหงา และ เซ็ง…” นั่นหมายถึงอาการของ “คนทุกข์” ถึงตรงนี้คุณจะมีวิธีจัดการกับ “ทุกข์” ที่แวดล้อมตัวคุณได้อย่างไรนี่แหละค่ะคือ “โจทย์ชีวิต” ที่ฉันอยากยกมาคุยด้วยและเมื่อเจอทุกข์ บางคนเลือกที่จะอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นกีฬา เข้าวัด ฟังเทศน์ หรือระบายให้กับเพื่อนฝูงคนใกล้ตัวฟัง แต่หลายคนอีกเหมือนกันที่ไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใครหาคนที่จะมานั่งรับฟังได้ยากทางออกคือ พึ่งบุหรี่ พึ่งเหล้า เข้าบาร์ แม้กระทั่งใช้ยาเสพย์ติดเพื่อคลายทุกข์ ขณะที่บางคนเลือกวิธีการที่น่ากลัวที่สุดคือ “การฆ่าตัวตาย”
“ฉันเอง” ก็เป็นพวก “หาทุกข์ใส่ตัว” มือวางอันดับต้นๆเหมือนกันตั้งแต่เด็กจนโตบางครั้งหาทางออกอะไรไม่ได้ก็ฟูมฟาย หรือฟาดงวงฟาดงาเอากับคนใกล้ตัวฟกช้ำดำเขียว หูอื้อกันไปก็มิใช่น้อย จนมีคนใกล้ตัวบางคนเรียก “ไอ้เพื่อนอำมหิต” แต่ช่วงหลังมานี้ฉันค้นวิธีขจัดกองทุกข์ด้วยตัวเอง นั่นก็คือการเขียน “บันทึกประจำวัน” หรือ “ไดอารี่” ซึ่งฉันจะขอเรียกวิธีนี้ว่า “ไดอารี่บำบัด” หรือจะให้อินเตอร์นิดๆอินเทรนด์หน่อยๆจะเรียกว่า “Diary Therapy” ก็ไม่ผิดกฎหมายแต่ประการใด
“การเขียนบันทึกประจำวันลงไดอารี่” เป็นการขจัดทุกข์ที่ได้ผล เพราะทำให้เราได้มีโอกาสนั่งทบทวนความคิดของตัวเอง ได้มองตนเองในมิติที่ลึกและหลากหลาย เรียนรู้ที่จะรับฟังและแก้ไขปัญหาต่างๆได้ภายในโลกที่เป็นของตนเอง มีเวลานั่งพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นที่เราพบเจอในชีวิตประจำวัน แม้จะเป็นสิ่งเล็กๆที่อาจจะไม่มีใครใส่ใจและมองข้ามไป บางครั้งคุณอาจค้นพบมุมเล็กๆในชีวิตของตนเองที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนว่ามี..!
สำหรับ “คุณผู้ชาย” อย่าไปเชื่อนะคะถ้ามีใครเขาบอกว่าการเขียนบันทึกลงไดอารี่เป็นการกระทำที่หวานแหว๋วแต๋วติ๋ม ผู้ชายคนไหนเขียนบันทึกคนนั้นจะไม่ “แมน” ฉันเคยเจอนะพวกชอบแอบอ่านไดอารี่ชาวบ้านแล้วเที่ยวไปพูดว่า พวกเราชาวนักบันทึกมันเป็นพวก “คิกขุ” บ้างหละ “เพ้อฝัน” บ้างหละแต่ฉันก็เก็บมาเขียนบันทึกเอาไว้ว่า พวกนี้สงสัยตอนเด็กๆ “พ่อแม่เลี้ยงดูไม่ทั่วถึง” เลย “ไร้มารยาท” แถม “ปากเสีย” ซ้ำอีก! เรื่องแบบนี้แล้วแต่ใครจะคิดและทำฉันเพียงแต่เสนอทางเลือกให้ทางหนึ่งเท่านั้นใครทำอะไรที่คิดว่าถูกจริตกับตัวเองก็ทำไป ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาวัดมาประเมินเพราะท้ายสุดแล้ว แค่ขอให้เรารู้จักและเข้าใจตัวเอง สามารถจัดการกับกองทุกข์ที่แวดล้อมตัว และมีชีวิตอย่างไม่ร้อนรนบนโลกสีน้ำเงินเบี้ยวๆใบนี้ได้ ก็เท่านั้น!
รักษาสุขภาพค่ะ
นางฟ้าปาสาดแดก
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC