ชาร์ลี มิตเท่น เป็นผู้เล่นที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งหลังสงครามโลก และได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เล่นเท้าซ้ายที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในวงการฟุตบอล
ประวัติ
ตำแหน่ง กองกลาง
เกิดที่ ย่างกุ้ง, พม่า
วันเกิด 17 มกราคม 1921
เข้าร่วมทีม สิงหาคม 1936
ค่าตัว ไม่มี
สโมสรเดิม นักเตะเยาวชน
ลงเล่นในลีก 142 นัด
ยิงไป 50 ประตู
มิตเท่นยังเป็นคนยิงจุดโทษเท้าฉมังอีกด้วย จอห์น โดเฮอร์ตี้ หนึ่งสมาชิกชุดบัสบี้ เบบส์ จำได้ว่า “เราเคยชนะวิลล่า 7 – 0 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด และชาร์ลี มิตเท่น ก็ทำประตูจากลูกจุดโทษไป 3 ลูก จาก 4 ลูกที่เขายิงได้วันนั้น ลูกแรกเขายิงไปทางขวา ลูกที่สองเขายิงไปทางซ้าย พอลูกที่สามเขาก็ถามผู้รักษาประตูทีมโน้นว่าจะให้ยิงไปทางไหน เขาก็ชี้ไปทางที่ชาร์ลีไม่ถนัด แต่พอยิงไป มันก็รับไม่ได้อยู่ดี”
ชาร์ลี เป็นคนเปลี่ยนตำแหน่งปีกซ้าย ให้กลายเป็นศิลปะ อีกทั้งเขายังได้ชื่อว่าเป็นคนหัวขบถอีกด้วย ชาร์ลี เข้าร่วมทีมทันทีที่จบจากโรงเรียนในปี 1936 และพร้อมสำหรับทีมชุดใหญ่ แต่ก็เกิดสงครามโลกขึ้นมาซะก่อน หลังจากทำงานในกองทัพระหว่างสงคราม เขาก็ได้กลับมาเล่นให้ทีม และคว้าเหรียญแชมป์เอฟเอ คัพ ในปี 1948 จากนั้นก็ร่วมทีมไปเตะปรีซีซั่น ที่อเมริกา ที่นั่นเขาได้รับข้อเสนอจากทีม ซานตาเฟ่ ในโคลัมเบีย ด้วยค่าจ้าง 10,000 ปอนด์ และค่าเหนื่อย 60 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งต่างกันอย่างลิบลับกับค่าแรงในอังกฤษในหน้าหนาวที่ได้เพียง 8 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และได้เพียง 6 ปอนด์ต่อสัปดาห์ในหน้าร้อน
ชาร์ลี บอกว่า “ผมไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนั้นมาก่อนเลยในชีวิต ถ้าผมเล่นยูไนเต็ด อีก 25 ปี ก็คงทำเงินไม่ได้มากเท่านั้น ผมซื้อบ้านโดยที่พวกโคลัมเบียเป็นคนจ่าย มันเป็นข้อเสนอที่ปฎิเสธไม่ได้จริงๆ” ดังนั้นเขาจึงตอบตกลง พร้อมกับนีล แฟรงคลิน เซ็นเตอร์ ฮาล์ฟ ทีมชาติอังกฤษและทีมสโต๊ค แต่น่าเสียดายที่โคลัมเบีย ไม่ได้เป็นสมาชิกของฟีฟ่า (ในตอนนั้น) ดังนั้นหลังจากเขากลับมาที่อังกฤษในปีถัดมา เขาจึงถูกแบน และแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ต้องขึ้นบัญชีขายเขาหลังจากอยู่กับทีมได้เพียง 4 ฤดูกาล
นักเตะฉายา “โบกาต้า แบนดิต (Bogata Bandit)” ถูกปล่อยตัวให้ฟูแล่ม ด้วยค่าตัว 20,000 ปอนด์ และเล่นที่นั้นอยู่ 5 ปี ก่อนจะไปเป็นผู้เล่น-ผู้จัดการทีม ให้เมนฟิลด์ จากนั้นก็ไปเป็นผู้จัดการทีมให้นิวคาสเซิล ซึ่งตอนนั้นเขาคลั่งไคล้การแข่งหมามาก ว่ากันว่าเขามีโทรศัพท์สายตรงจากสนามซ้อมไปยังสนามแข่งหมา ทั้งยังเคยพาหมาหลายตัวลงไปสนามซ้อมเพื่อรักษาอีกด้วย
จากนั้นเขาก็กลับมาแมนเชสเตอร์ เพื่อเปิดสนามแข่งหมาชื่อ “ไวท์ ซิตี้” ก่อนจะเปลี่ยนมาทำงานด้านสปอร์ต โปรโมชั่น โดยเฉพาะการจัดทัวร์ไปต่างประเทศ
ชาร์ลี ได้สร้างชื่อเสียงให้โคลัมเบีย มาก เพราะรีล มาดริด คว้าตัวสองผู้เล่นชาวอาเจนติน่า ของซานตาเฟ่ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ และ เฮคเตอร์ ไรอัล และทีมชุดขาวก็ต้องการตัวชาร์ลี ด้วยเช่นกัน เขาสามารถไปร่วมทีมรีล มาดริด ได้ และเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ครองความยิ่งใหญ่ในยุโรปด้วยการคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ถึง 5 ครั้งในช่วงนั้น แต่ภรรยาของเขาต้องการกลับบ้าน และอยากให้ลูกได้เรียนหนังสือที่อังกฤษ ชาร์ลี จึงต้องกลับมาเพื่อโดนปรับ 250 ปอนด์ และถูกแบน 6 เดือน การย้ายไปผจญภัยของเขาก็ส่งผลถึงการติดทีมชาติด้วยเช่นกัน อย่างที่เซอร์ สแตนลี่ย์ เร้าซ์ เลขาของสมาคมฟุตบอลอังกฤษบอกว่า “เรารู้ว่าคุณคือผู้เล่นเท้าซ้ายที่ดีที่สุดของอังกฤษ แต่ผมกลัวว่าเราจะเรียกคุณมาติดทีมชาติไม่ได้ เพราะระเบียบวินัยต้องมาก่อน”
ลูกชายสองคนของเขา จอห์น และ ชาร์ลส ต่างก็เคยลงเล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ด
ดิ สเตฟาโน่ ตำนานของทีมรีล มาดริด เคยบอกว่า “ชาร์ลีเก่งจริงๆ ถ้าเราได้ตัวเขาเราคงไม่ต้องการตัวเกนโต้ เกนโต้เร็วก็จริง แต่ชาร์ลี เขาฉลาดกว่า” ส่วนชาร์ลี ซึ่งช่วงหลังมีปัญหาด้านสุขภาพก็บอกว่า “ผมรู้สึกดีใจนะที่เขาพูดแบบนั้น แล้วก็แปลกใจด้วย”
สถิติ ชาร์ลี มิตเท่น ลงสนามให้แมนฯ ยูไนเต็ด รวมทั้งหมด 161 นัด จัดการไป 61 ประตู
ประเดิมสนามนัดแรก บอลลีก แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับกริมบี้ ทาวน์ 31 กันยายน 1946 (ชนะ 2 – 1 มิตเท่น ยิงประตูประเดิมได้เลยด้วย)
Eric the King
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC